....ขอเชิญร่วม.....ปิดทองรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส..... วัดหน้าพระบรมธาตุ ....... ...มีวัตถุมงคล...รุ่นพิเศษ.............................อนุญาตุให้บทความทั้งหมดเป็นสาธารณะ.......

22 เม.ย. 2554

นิทานธรรมบท เรื่องพระติสสเถระ

เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน กรุงสาวัตถี ทรงปรารภพระติสสเถระ ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 3 และพระคาถาที่ 4 นี้

พระ ติสสเถระ เป็นบุตรพระญาติข้างพระมารดาของพระศาสดา ครั้งหนึ่งได้มาอยู่กับพระศาสดา ติสสเถระอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อตอนชราภาพแล้ว แต่ได้ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นพระเถระและจะแสดงความดีใจเมื่อพระอาคันตุกะขอ อนุญาตทำกิจวัตรที่พระผู้น้อยสมควรทำแก่พระผู้ใหญ่กับท่าน ตรงกันข้ามท่านติสสเถระไม่ยอมทำกิจวัตรที่ตนในฐานะที่เป็นพระพรรษาน้อยจะ ต้องทำแก่พระผู้ใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นท่านก็ยังทะเลาเบาะแว้งกับพระภิกษุหนุ่มอยู่เป็นประจำ หากมีใครว่ากล่าวตักเตือนในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตนนี้ ท่านก็จะนำเรื่องไปฟ้องกับพระศาสดา แล้วแสร้งบีบน้ำตาห้องไห้แสดงความไม่พอใจและความผิดหวังออกมา พวกพระอื่นๆก็ได้ติดตามพระติสสเถระไปเฝ้าพระศาสดา พระศาสดาได้ตรัสสอนพระภิกษุทั้งหลายไม่ให้สร้างความรู้สึกผูกใจเจ็บ เพราะเวรนี้ไม่สามารถระงับได้ด้วยการจองเวร

จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 3 และพระคาถาที่ 4 นี้

อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ

อชินิ มํ อหาสิ เม

เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ

เวรํ เตสํ น สัมมติ.

ชนเหล่าใด ผูกใจเจ็บว่า

มันด่าเรา มันทุบตีเรา

มันชนะเรา

มันขโมยของเรา

เวรของพวกเขา ไม่มีวันระงับได้.


อกฺโกจฉิ มํ อวธิ มํ

อชินิ มํ อหาสิ เม

เย จ ตํ นูปนยฺหนฺติ

เวรํ เตสูปสมฺมติฯ

ชนเหล่าใด ไม่ผูกใจเจ็บว่า

มันด่าเรา มันทุบตีเรา

มันชนะเรา

มันขโมยของเรา

เวรของพวกเขา ย่อมมีวันระงับได้.
เมื่อ จบพระธรรมเทศนา ภิกษุหนึ่งแสนรูปได้บรรลุพระโสดาปัตติผลเป็นต้น พระธรรมเทศนามีผลมากแก่มหาชน พระติสสเถระที่หัวดื้อก็กลายเป็นคนว่าง่าย.

ข้อมูลโดย วิโรจน์ ไผ่ย้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น