....ขอเชิญร่วม.....ปิดทองรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส..... วัดหน้าพระบรมธาตุ ....... ...มีวัตถุมงคล...รุ่นพิเศษ.............................อนุญาตุให้บทความทั้งหมดเป็นสาธารณะ.......

22 เม.ย. 2554

นิทานธรรมบท เรื่องมัฏฐกุณฑลี

เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเชตวัน กรุงสาวัตถี ทรงปรารภมัฏฐกุณฑลี ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 2 นี้

มัฏ ฐกุณฑลีเป็นชายหนุ่ม มีบิดาชื่อ อทินนปุพพกะ ซึ่งเป็นเศรษฐีที่มีความตระหนี่ไม่เคยบริจาคทานให้แก่ผู้ใด แม้แต่เครื่องประดับสำหรับบุตรชายเขาก็ทำให้เอง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย(ค่ากำเหน็จ)สำหรับช่างเงินช่างทอง เมื่อบุตรชายคนนี้ล้มเจ็บลง แทนที่ท่านเศรษฐีจะไปจ้างแพทย์มาทำการรักษาก็ใช้ยากลางบ้านมารักษาตามมีตาม เกิด จนกระทั่งอาการของบุตรชายเข้าขั้นโคมา เมื่อรู้ว่าบุตรชายจะต้องตายแน่แล้ว เขาก็นำบุตรชายที่มีอาการร่อแร่ใกล้ตายนั้นออกไปนอนเสียนอกบ้าน เพื่อที่ว่าคนอื่นๆที่มาเยี่ยมลูกชายที่บ้านจะได้ไม่สามารถมองเห็นทรัพย์ สมบัติของเขาได้

ในเช้าวันนั้น พระศาสดาทรงใช้ข่ายคือพระญาณของพระองค์(ลักษณะคล้ายๆกับเรดาร์แต่มีสมรรถนะ เหนือกว่ามาก)ทำการตรวจจับดูอัธยาศัยของคนที่จะได้เสด็จไปโปรด ก็ได้พบมัฏฐกุณฑลีนี้มาปรากฏอยู่ในข่าย ดังนั้นเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีจึงได้ไปประทับยืนอยู่ ที่ใกล้ประตูบ้านของอทินนบุพกเศรษฐี พระศาสดาทรงฉายฉัพพรรณรังสีไปยังที่ที่มัฏฐกุณฑลีนอนหันหน้าเข้าหาตัวเรือน มัฏฐกุณฑลีได้หันกลับมามองดูพระศาสดา แต่ตอนนั้นอาการป่วยของเขาร่อแร่จนไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากน้อมใจทำการ เคารพพระศาสดา เมื่อมัฏฐกุณฑลีสิ้นชีวิตด้วยจิตใจที่เลื่อมใสศรัทธาต่อพระศาสดา ก็ได้ไปเกิดอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เมื่อไปเกิดอยู่บนสวรรค์แล้ว มัฏฐกุณฑลีมองลงมาด้วยตาทิพย์เห็นบิดาเข้าไปรำพึงรำพันถึงเขาอยู่ในป่าช้า ก็ได้แปลงตัวมาเป็นชายชรามีรูปร่างเหมือนกับมัฏฐกุณฑลีไม่มีผิด ร่างแปลงนั้นได้บอกบิดาของเขาว่าเขาได้ไปเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว และได้พูดกระตุ้นบิดาให้ไปทูลนิมนต์พระศาสดามารับภัตตาหารที่บ้าน และที่บ้านของอทินนปุพพกเศรษฐีก็มีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่บุคคลตายแล้วจะไปเกิดบนสวรรค์เพียงแค่ทำใจให้มีศรัทธาใน พระพุทธเจ้าเท่านั้น โดยไม่มีการถวายทาน และรักษาศีลแต่ประการใดทั้งสิ้น ดังนั้นพระศาสดาจึงทรงอธิษฐานจิตให้มัฏฐกุณฑลีมาปรากฏในร่างของเทวดา และมัฏฐกุณฑลีก็ได้มาปรากฏตัวในร่างของเทวดาพร้อมด้วยเครื่องประดับที่เป็น ทิพย์ และได้บอกว่าตนได้ไปเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จริงๆ เมื่อมีหลักฐานพยานปรากฏเช่นนี้แล้ว คนที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นั้นก็เกิดความมั่นใจว่าบุตรชายของอทินนปุพพกเศรษฐีไปเกิดบนสวรรค์เพียง แค่ทำใจให้มีศรัทธาในพระศาสดาเท่านั้นเองได้จริงๆ

ต่อแต่นั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบทที่ 2 นี้ว่า

มโนปุพพงฺคมา ธมฺมา

มโนเสฏฺฐา มโนมยา

มนสา เจ ปสนฺเนน

ภาสติ วา กโรติ วา

ตโต นํ สุขมนฺวติ

ฉายา ว อนุปายินีฯ

ทุกสิ่งทุกอย่างมีใจนำ มีใจเป็นใหญ่

สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าคนเรามีใจบริสุทธิ์

จะพูดจะกระทำก็พลอยบริสุทธิ์ไปด้วย

เพราะการพูดและกระทำอันบริสุทธิ์นั้น

ความสุขย่อมตามสนองเขา

เหมือนเงาติดตามตน.

เมื่อ พระธรรมเทศนาจบลง สัตว์แปดหมื่นสี่พันได้บรรลุธรรม มัฏฐกุณฑลีเทพบุตร บรรลุโสดาปัตติผล อทินนกปุพพกพราหมณ์ บรรลุโสดาปัตติผลเช่นกันและเขาได้บริจาคทรัพย์เป็นจำนวนมากในพระพุทธศาสนา.

ข้อมูลโดย วิโรจน์ ไผ่ย้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น